วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2551

80 เหตุผลที่ทำให้ผู้ชายดูดี

OoPla@wAoO


80 เหตุผลที่ทำให้ผู้ชายดูดี



สมัยนี้จะหาผู้ชายที่ดี ๆ สักคนมาเป็นแฟน ก็หายากซะนี่กะไร

เพราะแต่ละท่านนะ โอ๊ย! อย่าให้พูดเลย จะดีกว่า

มันช้ำใจ เมี่อไหร่นะ ฟ้าจะประทาน คนที่ดีเลิศประเสริฐศรี

และ perfect มาให้เราบ้าง ไม่ใช่แต่ผู้ชาย มากำหนดให้เรา

เป็นอย่างโน้น อย่างนี้ ฝ่ายเดียว เดี๋ยวนี้ผู้หญิงอย่างเรา

ก็มีสิทธิ์ตัดสินใจ ถ้าหาผู้ชายดีๆ ไม่ได้ ก็ขออยู่คนเดียวดีกว่า

แค่ทำให้ได้ซักครึ่งของที่เราคิด ก็ดีพอแล้ว คงไม่มากไปใช่ไหมเนี๊ย!

01. หล่อ เก๋ เท่ระเบิด
02. นิสัยดี
03. เรียบร้อย
04. คุยเก่ง คุยสนุก
05. ไม่เจ้าชู้
06. ไม่เจ้าอารมณ์
07. ไม่เอาแต่ใจตัวเอง
08. ไม่ขี้หึงแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ
09. ยิ้มเก่ง ดูดีอยู่เสมอ
10. มีเหตุผล
11. ไม่ขี้โวยวาย
12. เอาใจเก่ง แต่ไม่ตามใจเราทุกอย่าง
13. โรแมนติกบ้าง
14. เห็นเราเป็นคนสำคัญ
15. ให้เกียรติผู้หญิง
16. อย่าคิดอะไรให้มันมากนัก
17. ไว้ใจเราหน่อยก็ดี
18. รักจริงๆๆๆๆๆ
19. ดูแล้วมั่นคง
20. มีความมั่นใจในตัวเอง
21. เป็นผู้นำเราได้
22. ดูแล และคอยเอาใจใส่เราอย่างดี
23. รักครอบครัว
24. เรียนเก่ง
25. แต่งตัวเป็น
26. รู้จึกมีสัมมาคารวะ
27. มีความคิดเป็นของตัวเอง
28. ไม่สูบบุหรี่
29. ดื่มเหล้าบ้าง แต่ควบคุมตัวเองได้
30. เล่นดนตรีเป็นบ้าง
31. ไม่โลภ
32. ใจสปอร์ต
33. มีอารมณ์ขันบ้าง (ไม่ใช่วางมาดขรึมซะตลอด)
34. dark, tall and handsome
35. ใส่แว่นแล้วดูดี
36. เล่นกีฬาได้หลายประเภท
37. สุขภาพแข็งแรง
38. มีกล้ามเล็กน้อย
39. เร้าใจ
40. มีขนหน้าอก (บางคนก้อม่ะชอบน่ะ)
41. ยังไม่มีใครหรือที่เรียกว่า..แฟน+กิ๊ก ฯลฯ (ณ.เวลาที่คบอยู่กับเรา)
42. ไม่มีแฟนเป็นผู้ชาย
43. พรมน้ำหอมบ้าง
44. เท้าไม่เหม็น
45. ไม่ใส่ กกน. ซ้ำวัน
46. ไม่ขี้เม้าท์ หรือ ชอบโอ้อวดน่ะแหละ
47. ตูดปอด (น้อยเตยบอกมา)
48. ตรงเวลา
49. ฉลาดทันคน แต่ กับเราอย่างทันนัก 555+
50. ไม่ขับรถเร็วเกินไป
51. เปลี่ยนหลอดไฟเป็น
52. ล้างจานได้
53. เจียวไข่อร่อย
54. รักเด็กน่ะ ม่ะใช่ ลักเด็ก
55. ชอบรดน้ำต้นไม้
56. จำชื่อหมาที่บ้านได้ หมดทุกตัว
57. ชอบช่วยเหลือผู้อื่น
58. รักพ่อรักแม่
59. รู้เรื่องเทคโนโลยี
60. ส่งการ์ดให้แฟนทุกเทศกาล
61. มีศีลธรรมประจำใจ
62. เดินจูงมือเรา
63. รู้จักให้ดอกไม้ผู้หญิง
64. ไม่มีความลับเยอะ
65. สะอาด
66. มีความอดทนเป็นเลิศ
67. บ้านไม่รก
68. เปิดเผย
69. มีเราคนเดียว
70. ไม่ขี้โม้โอ้อวด
71. เพื่อนๆ รัก
72. ไม่ติดเพื่อนจนเกินไป
73. มีการวางแผนอนาคต
74. ไม่โผงผาง
75. วิสัยทัศน์กว้างไกล
76. ปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์
77. ดื่มน้ำแร่
78. ท้วม ๆ ก็ดูน่ารักดี
79. สละที่นั่งให้เด็ก สตรี และคนชรา
80. รู้จักเข้าคิวซื้อของ








การได้รักเป็นเพียงความว่างเปล่า การถูกรักเป็นแค่บางสิ่งบางอย่าง

"ส่วนการได้รักและการถูกรักนั้นเป็นทุกอย่าง"



แรกพบเกิดความผูกพันธ์

พอนานวันเกิดเป็นความเข้า....

กาลเวลาแปรเปลี่ยนไป

ทำให้ใจของเรา..ยิ่งมั่นคง..



เก็บ....ดวงน้อยมาเรียงร้อย

ถักทอแทนความห่วงใยและคิดถึง

มอบให้แด่เธอผู้เป็นที่หนึ่ง

ด้วยรักที่ลึกซึ้งคือเธอ..ผู้เดียว



ถึงตัวไกลแต่....ยังฝังจิต

แนบสนิทหนึ่งในฤทัยนี้

แม้เวลาผันผ่าน วัน-เดือน-ปี

แต่ใจนี้ทุกนาทีมีเพียงเธอ



คิดถึง..เธอจริงๆใครจะรู้

คิดถึง..เธออยู่รู้บ้างไหม

คิดถึง..เหลือเกินยามห่างไกล

แล้วเธอล่ะ..คิดถึง..กันบ้างไหม (ช่วยบอกที)



ชอบคนไกลเอาใจเขาก้อยาก

แฟนเค้ามากเราไม่รู้ดูไม่เห็น

เค้ารักเรา เค้าก็รักคนอื่นเป็น

เค้าไม่เห็นหน้าเรา..เค้าก็ลืม..



ฉันรักเธอ เธอรักฉัน เฝ้าพร่ำบอก

กี่ล้านคำที่บอกไร้ความหมาย

ถ้าหากเธอรักฉันอย่างจริง....

การกระทำเหนือสิ่งใด "ที่สำคัญ"



คิดถึงคนไกลจะรู้ไหม

ว่ามีคนห่วงใยอยู่ทางนี้

คิดถึงเธอเสมอนะคนดี

บอกอีกที..ว่าแอบคิดถึง..ทุกวัน



รักเธอเสมอนะคนดี

จะกี่วันนานปีไม่แปรผัน

ยังรักเธอเหมือนเดิมทุกคืนวัน

และคงมั่นรักเธอยิ่งกว่าเดิม



ถึงอยู่ไกลแต่....ไม่เคยห่าง

ถึงอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวสักกี่หน

ยังมีความอบอุ่นจากใครบางคน

ที่คอยส่งกำลังใจให้แก่กัน



รักของฉันเปรียบเสมือนดังต้นหญ้า

ออกดอกงามแม้เวลานั้นเปลี่ยนผัน

รักของเธอล่ะเป็นเช่นใดกัน

จะมั่นคง..ต่อฉัน..รึเปล่าเธอ



คิดถึงเธอ เธอจะรู้บ้างหรือเปล่า

ยามเมื่อคราวเราไกลห่างใจสับสน

นอนละเมอ คิดถึงหน้าใครบางคน

คอยวกวน ตามติดใน....



ขอบคุณความรักที่เธอให้

ขอบคุณความห่วงใยที่มีค่า

ขอบคุณทุกความรู้สึกที่ส่งมา

สัญญาว่าจะรักษาไว้อย่างดี



อาจไม่หวานเหมือนโอเล่

และไม่เปรี๊ยวเหมือนเชอร์รี่

อาจไม่ซ่าส์เหมือนซาสี่

แต่รักนี้มีเพื่อเธอ...



ยามห่างไกลใจคอยคิดถึง

ทุกห้วงคำนึงยังคงห่วงหา

รักษาตัวด้วยเมื่ออยู่ไกลตา

แล้วเราจะกลับมา เมื่อเวลาพาพบกัน



รักเสมอนะคนดี

จะกี่วันนานปีไม่แปรผัน

ยิ่งรักเธอมากขึ้นทุกๆวัน

รักนิรันดร์คนเดียวไม่เปลี่ยนแปลง



ในวันที่ชีวิตนั้นเหนื่อยล้า

ในบางคราที่....ฉันสับสน

อยากจะขอแค่เพียงใครสักคน

จะเป็นคนที่เดินอยู่เคียงข้างใจ



มีเธออยู่เคียง....ไม่ต้องการ?มากกว่านี้

ขอแค่ความจริงใจที่เธอมี

บวกความรู้สึกที่ดีๆ...ห่วงใยกัน



แอบชอบเธอเธอจะรู้บ้างมั๊ยหนอ

อยากจะขอให้เธอรักฉันสักหน

คนๆนี้ จริงใจและซื่อตรง

รักมั่นคง แต่เธอเพียงผู้เดียว



จะรักเธอนานเท่าไหร่ฉันไม่รู้

ที่มีอยู่ก็แค่เพียงใจของฉัน

วันเวลาไม่อาจเปลี่ยนหรือแบ่งปัน

เพราะสำคัญอยู่ที่....ฉันและเธอ






..พื้นฐานที่แข็งแกร่งที่สุดของชีวิตรัก..



ฉันเฝ้าพินิจไตร่ตรองทั้งจากหลักความสัมพันธ์ที่ศาสดาเอกของโลก

สอนเรามา ทั้งจากตัวอย่างคู่เพื่อนรักหรือคู่ชีวิตที่รักกันยั่งยืนจริงๆ

แล้วนำมาวัดกับ “ความต้องการแท้จริงในตัวมนุษย์ทุกคน”

ที่อิงบนพื้นฐานของการ “อยากได้รับความรักและการยอมรับ”

และ “ต้องการความสุข ไม่ปรารถนาความทุกข์”

เหมือนกันหมดทั้งโลก ถึงค้นพบว่า


ความรักที่แข็งแกร่งทนทานท้ากาลเวลาและอุปสรรคทั้งหลาย

ทุกคู่ล้วนมอบคุณสมบัติรักแท้


1. ความไว้ใจ (Trust)
ในบรรดาเสาเอก 4 ต้น เสา “ไว้ใจ” ถือเป็นเสาเอกเสาแรกที่สำคัญที่สุดของความรักและชีวิตคู่ ขาดเสาต้นนี้ไม่ได้เลย เพราะชีวิตคู่จะพังทลาย และความรักจะกลายเป็นนรกทั้งเป็น คุณจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่กับคนคนหนึ่งได้อย่างไรโดยที่คุณไม่กล้าไว้ใจเขาเลย

แต่น่าแปลกใจเหลือเกินที่ผู้หญิงมากมายยอมทนอยู่กับคู่รักที่ “ไว้ใจไม่ได้” หลายคนมาบ่นให้ฉันฟังซ้ำซากว่าแฟนช่างไว้ใจไม่ได้ ทำให้ผิดหวังตลอดเลย เช่น ไว้ใจไม่ได้เรื่องเงิน-แอบถอนเงินจากบัญชีร่วมไปใช้โดยไม่บอกกล่าว หรือไปก่อหนี้ไว้เรื่อยๆ โดยที่ไม่บอกเมีย ไว้ใจไม่ได้เรื่องความรับผิดชอบ

เช่น แฟนใช้ให้ไปทำอะไรมักไม่ได้เรื่อง ผิดพลาด ล้มเหลว หรือทำผิดสเปกที่สั่งไว้ จะโดยความโง่หรือความดื้อรั้นของสามีก็แล้วแต่ แต่ทำภรรยายั๊วะขาดได้ทุกทีที่ใช้ให้ไปทำอะไร ไว้ใจไม่ได้เรื่องชู้สาว-อันนี้ไม่ต้องบรรยาย เพราะเป็นปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นในเมืองไทยนาทีละหลายคู่

ปัญหาคือบ่นซ้ำซากแล้วได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา ถ้าเราแก้ตั้งแต่ต้นตอไม่ได้ คือสั่งสอนกันตั้งแต่ลูกหลานเป็นวัยรุ่นกำลังจะโตเลยว่า “ดูให้ดีก่อนคบหากับใคร ว่าเขาเป็นคนไว้ใจได้หรือไม่” ก็ต้องแก้ที่ปัจจุบัน คือเดินออกมาจากสภาพชีวิตที่บั่นทอนนั้นซะ

วันนี้คุณจงถามตัวเองว่าความสัมพันธ์ของคุณในอดีต หรือวันนี้ คุณไว้ใจคู่ของคุณได้หรือไม่ เขาทำตัวสมคุณค่าของการไว้ใจหรือเปล่า และตัวคุณเองได้ทำตัวมีค่าคู่ควรที่เขาจะกล้าไว้ใจหรือยัง

ตอบใช่ทั้งสองฝ่ายคุณถึงจะอยู่เป็นคู่กันได้อย่าง “มีความสงบสุข” หรือ peace อย่างแท้จริง เพราะความไว้ใจช่วยให้ชีวิตสงบสุขค่ะ แต่ถ้าคำตอบคือ “ไม่ใช่” เลือกเอาค่ะว่า คุณจะดันทุรังทุกข์ต่อไปหรือเลือกยุติความทรมานตั้งแต่ตอนนี้

2. ความนับถือให้เกียรติกัน (Respect)
มนุษย์ทุกคนต้องการการเคารพนับหน้าถือตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนที่มีความหมายกับเรา เช่น ครอบครัว เพื่อนๆ และคนที่เรารัก ทว่ามีกี่ครั้งแล้วที่คุณเห็นเหตุการณ์ “ไม่ให้เกียรติ” ที่คนซึ่งขึ้นชื่อว่ารักกันแต่กลับกระทำต่อกันได้โดยไม่คำนึงเลยว่าอีกฝ่ายจะรู้สึก “ด้อยค่า” หรือถูกดูหมิ่นน้ำใจแค่ไหน

ฉันขอบอกเลยว่า วิธีทำให้คู่รักของคุณหมดรักและหมดเสน่หาในตัวคุณได้เร็วมากไม่ใช่การนอกใจค่ะ แต่คือการทำลายความนับถือตัวเองเข้าไว้ ไม่ว่าจะทำลายความนับถือที่เขามีต่อตัวเอง (ด้วยการหมั่นตำหนิวิจารณ์เขา ดูถูกเขาว่าไม่ได้ดั่งใจคุณ ไม่เคยทำอะไรถูกใจ ไม่มีดีให้คุณภูมิใจสักอย่าง สู้ผู้ชายคนอื่นไม่ได้ หักหน้าเขาต่อหน้าคนอื่น-โดยเฉพาะต่อหน้าผู้ชายด้วยกันนี่หนักสุด ฯลฯ) หรือทำลายความนับถือที่เขามีต่อคุณ (เช่นทำตัวเป็นผู้หญิงหิวรัก ไขว่คว้า ไร้ค่า เมาเละเทะหมดสภาพ ฯลฯ) นั่นแหละเร็วที่สุดๆ เลย!

เสน่หาทางเพศที่ผู้ชายมีต่อผู้หญิงมีส่วนเกี่ยวพันขึ้นตรงกับ “ความยกย่องนับถือ” ที่ผู้หญิงมีต่อผู้ชายคนนั้นจริงๆ ค่ะ ยิ่งผู้หญิงยกย่องและชื่นชมผู้ชายเท่าไหร่ เขาจะยิ่งเสน่หาต่อเธอมากขึ้นตามนั้น

ไม่เชื่อฉันท้าให้ไปถามผู้ชายดู






หยุดคิดสักนิด...ก่อนคิดจะรักใคร






ยาขอบ ท่านเขียนไว้ ในหนังสือชื่อ ความรักว่า

"คนที่เรารัก อาจไม่ใช่คนที่เราครอบครอง คนที่เราได้ครอบครอง

อาจไม่ใช่คนที่เรารัก"
เรื่องของความรักนั้น มันเกิดกับมนุษย์สองคนก็จริง

แต่ไม่ได้หมายความว่า "รัก" ครั้งนั้น
จะประสบความสำเร็จ เสมอไป หลายครั้งที่คนเรารักกันแล้ววืด หรือ
"ก้าวพลาดจนเผลอตกบันได" เพราะมีปัจจัยเสริมหลายอย่าง
ทำให้อยู่ด้วยกันไม่ได้.... ทั้งที่ใจนั้น อาจรักกัน ปานจะกลืน
แต่อนิจจา เขาดันมีคนอื่นอยู่ก่อนแล้ว เหตุนี้เมื่อเวลาเราจะเลือกคู่
แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าเรารักใคร แต่ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่า เป็นไปไม่ได้
ทำให้เราต้องไปเลือกคนอื่นมาอยู่ด้วย เรียกว่า ผิดฝา ผิดตัว
ก็เลยทำให้เกิด อารัมภบท ของยาขอบ ข้างต้นขึ้นมานั่นไง

เมอร์ลินว่า หลายคู่หากลงเอยกันทำนองนี้

ขอให้อย่าคิดอะไรมาก คิดซะว่า
รักมันก็เป็นเช่นนี้เอง คือแม้เราไม่สมหวังในรัก
แต่ก็ยังมีคนที่มารักเราอยู่ - แบบนี้ก็น่าจะพอใจแล้ว ใช่ไหม

ออสการ์ วาย นักเขียนชั้นบรมครูจากอังกฤษ
แม้ท่านจะเป็นเกย์ แต่กลับพูดถึงความรักไว้น่าสนใจว่า
"ผู้ชายจะเลือกรักแรกของผู้หญิง แต่ผู้หญิงมักเลือกรักสุดท้ายของผู้ชาย"
นี่ขนาดคุณออสการ์เธอเขียนไว้หลายสิบปีแล้ว แต่ยังปรากฏว่า
คำพูดยังดำรงความจริง ชนิดไม่ค่อยจะเปลี่ยนสักเท่าไหร่

"การมีชีวิตอยู่คนเดียวในโลกไม่ต้องใช้ฝีมือ
แต่การมีชีวิตคู่ต่างหากล่ะที่ถือว่า เป็นพัฒนาการในด้านจิตใจ"
ก็จริงของเขานะที่ว่า การมีชีวิตโสดน่ะ ไม่เห็นต้องใช้ฝีมือ
ในการดำรงชีวิตอย่างไรเลยเพราะเราอยู่ตัวคนเดียว ทำอะไรคนเดียว
จะต้องไปแคร์ใคร ให้มันยุ่งยาก ทว่าเมื่อไหร่ก็ตาม
ที่คุณไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก แต่เกิดมีใครสักคนมาอยู่ด้วยเป็น
"สองเรา" นี่สิ คุณคิดหรือว่า การดำเนินชีวิต
มันจะง่ายเหมือนเมื่อครั้งที่ต้องอยู่คนเดียว ตามลำพัง...
น่าคิดนะจ๊ะข้อนี้

"อย่าแต่งงานเพื่อหนีความเหงา และความว้าเหว่
(เลยแม่คุณเอ๋ย) เพราะถ้าแต่งงานไป (แล้วเกิดไปกันไม่ได้จริง)
คุณจะยิ่งเหงาและว้าเหว่หนักขึ้น" ขอทิ้งทวนแต่ไม่ทิ้งท้าย เอาไว้ว่า
"การเลือกคู่ครองที่ดี คือการมองอนาคตของกันและกัน" เพราะอย่างว่า
"ความรัก" ควรมีพัฒนาการ ส่วนจะเป็นการก้าวกระโดดไปในทางที่ดี
หรือร้าย ก็ขึ้นอยู่กับนักรักมืออาชีพอย่างคุณๆ ทั้งหลายนั่นแหละ

ส่วนคำคมอมตะที่เมอร์ลินชอบสุด
ท่านว่า The supreme happiness of life is conviction that we are loved
“ ความสุขสูงสุดของชีวิต คือการแน่ใจว่า เรามีคนรักอยู่ “
ซึ้งไม่ซึ้ง ก็ไม่รู้ล่ะ แต่เราชอบจังเลย. "เมอร์ลิน"






****** ที่ใน...หัวใจฉัน ******



หากหัวใจฉันคือดวงดาว

คงเปล่งแสงพร่างพราวอยู่กลางฟ้า

ให้ใครต่อใครได้มอง ได้ค้นหา

แต่ไม่เคยร่วงลงมาสู่มือใคร



หากหัวใจฉันคือสายลม

ทุกความเศร้าตรมจะพัดผ่านให้

เคลื่อนตัวอยู่ข้างกายมอบความอบอุ่นใจ

เพียงรู้สึกสัมผัสได้ แต่ไม่ให้ใครครอบครอง



หากหัวใจฉันคือก้อนหิน

คงสิ้นสุดการเคลื่อนไหวตอบสนอง

ทุกความรักคงเป็นได้เพียงเศษละออง

กระทบหินแตกเป็นสองมลายไป



หากหัวใจฉันคือดวงตะวัน

คงทดแทนความเหน็บหนาวแห่งคืนและวันได้

อบอุ่นในความห่างที่ไม่ใกล้มากเกินไป

เพราะฉันอาจกลายเป็นเปลวไฟทำลายกัน



หากหัวใจฉันคือเมฆขาว

คงบอกเล่าเรื่องราวบนฟ้านั้น

แดด ฝน ลมหนาว ทุกฤดูกาลที่เปลี่ยนผัน

แต่ไม่มีใครรู้ว่าฉันจะล่องลอยไปที่ใด



แต่ตรงนี้...ที่ใน......ฉัน

เต็มเปี่ยมด้วยความฝันและเธอก็สัมผัสได้

หัวใจฉันแกร่งแต่ไม่อาจแข็งเหมือนหินผาเฉียดฟ้าไกล

เพียงเธอมองด้วยหัวใจ...อาจเห็นความรักของฉันได้

มากกว่าคำอธิบายนับร้อยพัน




คุณเปรียบความรักของคุณเป็นสิ่งไหน?





ฉันเป็นเพียงหนังสือเล่มหนึ่ง

อยู่บนชั้นแห่งความคิดถึง...สุดมุมของความเหงา

รูปเล่มธรรมดา...ปกสีฟ้า...อ่อนหวาน...บางเบา

ใต้ชื่อหนังสือ...รักของฉันคือบทกวี



ไม่มีสารบัญ...ไม่เอื้อนเอ่ยคำนำ

ขีดเส้นใต้เน้นย้ำ...แด่เธอผู้เปิดอ่านหนังสือเล่มนี้

โปรดเปิดประตูหัวใจ...ค่อยๆสัมผัสเรื่องราวที่ฉันมี

ให้ทุกอักษรไหลเคลื่อนเป็นหนึ่งเดียวกับวินาที...ต่อจากนี้ไป



ตัวอักษรที่ทิ้งช่วงความห่าง

บอกร่องรอยความอ้างว้าง เคว้งคว้าง หวั่นไหว

เนื้อหาที่เกาะกุมความเศร้า เก็บงำความอ่อนแอในหัวใจ

บทเพลงสายลมอ่อนไหว ยังพลิ้วตัวบนกระดาษความผูกพัน



รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ บทเพลงรัก

แหวนใบไม้ถัก ทุ่งหญ้าเขียว ขอบฟ้ากว้าง เส้นทางฝัน

ก้อนหินแกร่ง ดอกไม้หอม ต้นไม้ใหญ่ได้ดวงตะวัน

ดวงดาวแห่งคืนวันคือทุกห้วงเวลาชีวิตฉันที่หมุนไป



ขอบคุณที่เธออ่านหนังสือเล่มนี้จนจบ

และต้องขอโทษหากเธอไม่พบสิ่งที่ค้นหา ที่หวังไว้

ฉันเป็นหนังสือหนึ่งในโลกที่อาจจะไม่มีใครเคยเข้าใจ

แต่เธอรู้ไหม...จากหน้าแรกจนหน้าสุดท้าย

ฉันซุกซ่อนความรักไว้ในทุกถ้อยคำ





**** (บทความนี้ได้นำมาจาก board ของเว็บนึง ... เปรียบความรักไว้ได้ดีทีเดียว) ****

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]

<< หน้าแรก